ห้องที่ ๑๓๔ : พระราชครูพิเชต


           ปางองค์อสุเรศรเจ้าลงกา
ผธมแท่นทองเลขา ขุ่นแค้น
จำจะยกโยธา ยาตรทัพ รบเฮย
ฤๅถดถอยถึงแม้น ชีพม้วยเกียรดิคง
           ทรงดำริหเร่งเร่าร้อน หฤไทย
จนจวบอุไทยไข ปลั่งเปลื้อง
สรงสินธุ์กระแลใส เสรจประดับ องค์แฮ
ทรงพระขรรค์ศรเยื้อง ยาตรขึ้นเกยกาญจน์
           สองกุมารชาญฉลาดล้ำ ทูลสนอง
อันมนุษยฆ่าโคตรผอง เผาสิน
เผือเจบจิตรคิดจอง เวรจัด
อย่าวิตกแดดิ้น ศึกนี้ภารเผือ
           จะอาษาออกสู้ สงคราม
บคิดขยาดความ มอดม้วย
อสุรินทรฮึกเหิมตาม เฉาโฉต
หลงเล่ห์ยินดีด้วย ยักษผู้สองหลาน
           ธเถลิงวรรถแก้ว แกมกาญจน์
ยกพยุหทวยหาญ โห่เร้า
รีบเมือจากเมืองมาร เสียงมี่ สนั่นแฮ
สองอสุรอาษาเข้า รับร้าปิกสอง
           ถับถึงจังหวัดเวิ้ง สนามยุทธ
พระยายักษสั่งพลอยุด ทัพยั้ง
ถกลกลกระบวนครุธ กางปีก
รายร่ายโยธีตั้ง ต่อต้านไพริน
           ปางองค์ภูวนารถน้อง นารายน์
เสดจออกพลับพลาพราย เพริศแพร้ว
อำมาตยกระบินทร์หลาย หมอบกลาด
ทรงสดับอสุรแกล้ว โห่ก้องกุลาหล
          ทรงทราบว่าทัพท้าว ทศพิณ
เสียงสะเทือนธรณิน ทั่วพื้น
บมีหวันหวาดยิน มลากต่อ ยุทธเฮย
เหมพระกระมลชื้น เหตุห้าวณรงค์หาญ
           จึ่งสั่งสุครีพให้ เตรียมพล
เรืองฤทธิราญรณ สุรกร้าว
อสุรผัดคุมพหล ทัพน่า
กองถัดนิลพัทห้าว ถัดนั้นฤทธิหาญ
           สององค์ทรงรถเร้า รุกพล
รีบเร่งพยุหพหล ทัพหน้า
ธุลีพัดพิโดรบน บังบด
ดลสมรภูมิ์ผ่านฟ้า สั่งให้อยุดพล
           พระบรรหารเร่งให้ อสุรผัด
ขับพิริยพลรีบรัด รบร้า
หลานลมสุดโสรมนัศ รับสั่ง พระเฮย
เร่งรุกพลแกว่นกล้า กล่นเข้ารณรงค์
           ถับถึงน่าทัพท้าว กุมภัณฑ์
อสุรผัดกวัดแกว่งขรรค์ กระทืบเท้า
ผายสีหนาทเย้ยหยัน เหวยยักษ หยิ่งนา
เผยอยกยอโคตรเค้า ว่าเชื้อวงษพรหม
           อวดฤทธิกำเริบอ้าง อวดหาญ
ชีวิตรจักมลายลาญ ไป่ช้า
เยี่ยวมึงรักชนมาน มละพยศ เสียเทอญ
มานบบาทเจ้าหล้า จึ่งพ้นไภยผอง
           ทศพิณพิโรธร้อง ผรุศไข
เหม่ลูกลิงลาไถย ถ่อยถ้อย
ยกมนุษยเท่าแมงไย ใครจัก ยั่นเฮย
กูใช่แทตยต่ำต้อย เผ่าพื้นพงษ์พรหม
          เปนจรรโลงภพพื้น กุมภัณฑ์
มารมหิทธิมหันต์ เดชกล้า
บเคยจักเคียงคัล นรเทพ ใดเลย
มึงคึกมึงขันท้า เที่ยงแท้ถึงตาย
           สองเถียงเสียงถี่ถ้อย ทารุณ
อสุเรศโมโหหุน เหิ่มซ้ำ
สั่งพลากะระเนื่องหนุน ขนาบขน่ำ มันเฮย
จับอสุรผัดมัดห้ำ หั่นให้เปนจุณ
           พลยักษเคยย่อท้อ ฤทธา ลิงนอ
เหนอสุรผัดใช่พา นเรศแท้
ต่างมนัศหรรษา สมคิด แล้วพ่อ
แกว่งสาตราเตมแล้ เล่ห์ต้นต่อณรงค์
           ตระบัดลัดหลีกเข้า พนาลี
วิ่งแยกแตกตื่นหนี วุ่นว้า
อสุรผัดตบหัดถ์ที สรวลเยาะ เย้ยฮา
ขานเคาะเหวยพลร้า หลบหน้าหนีไฉน
           อสุรินทรยินเย้ยยิ่ง โกรธา
เหวยลูกลิงเลวมา หมิ่นได้
เองจะดับชีวา ศราวุธ นี้เวย
ธกวัดแกว่งศรไส้ หน่วงน้าวแผลงผลง
           แสนศรร่อนคคว้าง กลางหน
อเนกแน่นนาทคำรน เกรอกฟ้า
รุมไล่อสุรผัดจน เจียนรอบ ตนนา
อสุรผัดโผนเผ่นคว้า รวบไว้ไวเหลือ
           รวบศรรวบรับไว้ ในกำ หัดถ์แฮ
เริงร่าสำรวญสำ รากเย้ย
หักศรยับระยำ โยนเยาะ ให้ฮา
นี่สาตราใครเฮ้ย เดชล้ำดีหลาย
          อสุรผัดโผนขึ้นรถ กุมภัณฑ์
ถีบอสุรโลทันต์ ถูกหน้า
รถทรงหักลงพลัน พลิกคว่ำ
เหนทศพิณถลาล้า ร่าเข้าโรมรอญ
           อสุรินทรร่าร้า โรมรัน
ต่างจับต่างตีกัน กึกก้อง
ต่างหนีต่างไล่พัน ลวันว่อง ไวแฮ
อสุรผัดโผนโจนจ้อง จับคว้าคันศิลป์
           ยื้อยุดฉุดแย่งได้ รันโรม
ถูกทศพิณท่าวโครม คว่ำคว้าง
บุตรอินทรชิตสองโสรม มนัศสบ ช่องฮา
โจนจับแขนคนละข้าง ฉุดรั้งรุนเข็ญ
           อสุรผัดโจนจับได้ วรณี สูรนา
จับจิกเกษอสุรี คร่าไว้
สามอสูรจับยักษี สองโสด มาแฮ
พาประเวศถวายไท้ ที่ยั้งยุทธภูมิ์
           พระพรตภักตรผ่องแผ้ว ภูลปรา โมทย์แฮ
ตรัสเรียกสุครีพมา สั่งซ้ำ
ท่านก็บุตรสุริยา เดชยิ่ง
จงอย่าเผลอพลาดพล้ำ พ่ายรู้ไพริน
           จำมันจงมั่นไว้ ทั้งสอง
จะไถ่ถามเอาผอง เพื่อนด้วย
บันดาคิดขบถปอง สมบัติ พิเภกนา
พิฆาฏเสียจงม้วย หมดพื้นมารพาล
           แต่อสุรผัดกับทั้ง บุตรา
อินทรชิตสองรา รีบร้อน
ไปนคเรศลงกา ถอดพิเภก มาเทอญ
สั่งเสรจเลิกพลย้อน ยาตรยั้งพลับพลา

จบห้องที่ ๑๓๔

  เนื้อความกล่าวถึงทศพิณยกพลออกจากกรุงลงกา ยามลิวันและกันยุเวกเข้าไปอาสาช่วยทำศึก ทศพิณหลงเชื่อให้ทั้งสองคุมปีกซ้ายขวาของกองทัพ พระพรตได้ยินเสียงโห่ร้องก็รู้ว่าทัพกรุงลงกายกมา จึงสั่งสุครีพเตรียมพลเข้าโจมตี อสุรผัดซึ่งคุมทัพหน้าเข้าต่อสู้กับทศพิณ ทั้งสองปะทะคารมกัน เมื่อทศพิณแผลงศรไปล้อมตัวอสุรผัด แต่ถูกอสุรผัดรวบลูกศรโยนทิ้ง และโผนเข้าถีบรถทรงของทศพิณ ทั้งสองเข้าต่อสู้กัน ทศพิณเสียทีถูกยามลิวันและกันยุเวกจับไว้ ส่วนอสุรผัดจับวรณีสูรได้ แล้วพาเชลยทั้งสองมาเฝ้าพระพรตในสนามรบ พระพรตสั่งให้สุครีพจองจำเชลยไว้ และสั่งให้สอบสวนหาผู้ร่วมคิดขบถ แล้วให้อสุรผัด ยามลิวัน และกันยุเวกกลับไปพาพิเภกมาเฝ้า

ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “สรงสินธุ์กระแสใส”
ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “เผาสิ้น”
ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “บมีหวั่นหวาดยิน”
ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “เยี่ยงมึงรักชนมาน”
ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “เหม่ลูกลิงสาไถย”